haval h6 phev
ลงทะเบียนสนใจรถ GWM H6 PHEV
สวัสดีลูกค้าทุกท่าน กลับมาพบกับบทความแนะนำรถยนต์ดีๆ จาก GWM จรัญสนิทวงศ์ กันอีกครั้ง บทความนี้ทางเราขอเชิญลูกค้าทุกท่านมากพบกับที่สุดยอดเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยมากที่สุดแห่งยุค All New HAVAL H6 Plug-In Hybrid นี่คือรถเอสยูวีที่ได้รับการอัพเกรดระบบการเสียบปลั๊กชาร์จไฟเพิ่มเติมเข้ามา พร้อมด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและความจุแบตเตอรี่ที่มากขึ้น ทั้งหมดทำให้เอสยูวีรุ่นนี้มีสมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม พร้อมกับระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ยาวไกลสูงสุดถึง 201 กิโลเมตร
All New HAVAL H6 Plug-In Hybrid เผยโฉมครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยภายในงาน Motor Expo 2021 ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั้งสื่อมวลชนและผู้บริโภคแม้จะยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็ตาม นับเป็นการยืนยันได้ถึงกระแสที่ร้อนแรงของรถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ล่าสุด Great Wall Motor ประเทศไทย ก็ได้นำสุดยอดยนตรกรรมรุ่นนี้กลับมาจัดแสดงที่งาน Bangkok International Motor Show 2022 อีกครั้ง เป็นการตอกย้ำความถึงเป็นผู้นำในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และโชว์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของรถยนต์รุ่นนี้ให้ลูกค้าที่สนใจได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ก่อนจะประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการและวางขายจริงภายในปี 2565 นี้
GWM จรัญสนิทวงศ์ ขอเชิญลูกค้าทุกท่านมารู้จัก All New HAVAL H6 Plug-In Hybrid รถเอสยูวีที่ดีที่สุดของเราในเวลานี้ มาดูกันว่ายนตรกรรมเอสยูวีรุ่นนี้มีจุดเด่นและน่าสนใจอย่างไร
สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มอัจฉริยะ
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid คือการพัฒนาต่อยอดจากรถเอสยูวี HAVAL H6 Hybrid ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON PLATFORM (Lightweight, Electrification, Multi-Purpose and Omni-Protection Network) นี่คือแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์อัจฉริยะระดับโลกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการขับขี่แห่งอนาคต ออกแบบมาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการขับขี่ ความปลอดภัย มีน้ำหนักที่เบา สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ และผสานรวมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จุดเด่นของแพล็ตฟอร์ม GWM LEMON คือโครงสร้างตัวถังมีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรงโดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-strength steel ในการทำตัวโครงสร้างมากกว่า 70% และเหล็กความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa ผสานกับการออกแบบที่สามารถดูดซับแรงกระแทกแบบรอบทิศทางทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายของตัวรถ เพื่อป้องกันอันตรายแบบรอบด้าน ลดอาการบาดเจ็บและการสูญเสีย นอกจากนี้ยังมาพร้อมจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกันรถก็ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครันไม่ว่าจะระบบถุงลมนิรภัยรอบห้องโดยสาร 6 ตำแหน่ง ทำงานร่วมกับระบบรองรับแรงกระแทกรอบตัวรถ และเข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถอย่างสูงสุดในการปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และยังสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บจากหนักเป็นเบาได้
ดีไซน์ภายนอก
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาที่ผสมผสานทั้งความพรีเมียมหรูหราและความสปอร์ตทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ตัวรถถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน มิติตัวรถ 1,886 x 4,683 x 1,730 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,738 มม.
ทุกท่านอาจจะเห็นว่าดีไซน์ภายนอกของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ในภาพรวมมีความคล้ายคลึงกับ HAVAL H6 Hybrid แต่ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ดีไซน์หน้ารถแบบ Star Matrix ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งการออกแบบ เพิ่มมิติให้ดูล้ำสมัย ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ เป็นเอกลักษณ์ ชวนให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหว พร้อมกับตกแต่งเล่นลวดลายกราฟิกเป็นแถบริ้วเล็ก ๆ เรียวยาว กระจังหน้าถูกออกแบบให้รับกับโคมไฟหน้าอย่างลงตัว ส่วนบริเวณด้านล่างมีลักษณะเป็นตะแกรงรังผึ้งสีดำสำหรับรับอากาศเข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์และเป็นที่อยู่ของอุปกรณ์เรดาร์หน้ารถ ขณะที่ชายล่างของกันชนหน้าตกแต่งด้วยแถบโครเมียมและเป็นส่วนของพลาสติกกันกระแทกสีดำ ให้ภาพลักษณ์ที่ดูบึกบึนได้เป็นอย่างดี ส่วนต่อมาที่มีการเปลี่ยนแปลงคือไฟตัดหมอก LED ถูกย้ายตำแหน่งให้ดูสวยงามลงตัวมากขึ้น
ระบบไฟหน้าของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นแบบ Intelligent LED Headlamp ดีไซน์เฉียบคมและทันสมัย ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ชัดเจน ให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Light ดีไซน์เส้นสวยคม
ด้านข้างของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ในภาพรวมยังคงเหมือนกับ HAVAL H6 Hybrid มาพร้อมคิ้วขอบล้อพลาสติกสีดำเชื่อมต่อกับแถบสเกิร์ตพลาสติกด้านข้างสีดำ เสริมความหรูหราด้วยแถบโครเมียมตกแต่งที่ชายล่างขอบประตู และกรอบกระจกหน้าต่างโครเมียม ติดตั้งราวหลังคาสีเงินมาเป็นมาตรฐาน ในส่วนของมือจับประตูและกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถ ขณะที่ล้ออัลลอยมีขนาด 19 นิ้ว ลวดลายแบบสปอร์ตให้ความสวยงามลงตัวกับดีไซน์ในภาพรวมของรถเป็นอย่างดี มาพร้อมกับยางขนาด 235/55 R19 ทั้ง 4 ล้อ เป็นยางประสิทธิภาพสูงที่เหมาะสมกับสมรรถนะของรถ ให้ความนุ่ม เงียบ และช่วยเรื่องการควบคุมได้ดี
ดีไซน์ด้านท้ายของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เรียกว่าไม่แตกต่างจาก HAVAL H6 Hybrid โดดเด่นด้วยแถบไฟท้าย LED Taillight Strip คาดยาวเต็มความกว้าง ให้ความสวยงาม ทันสมัย และมองเห็นเด่นชัดในเวลากลางคืน เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่มีไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ในตัวและเสาอากาศครีบฉลาม ในส่วนของกันชนท้ายมีแถบพลาสติกกันกระแทกสีดำพร้อมครีบสไตล์สปอร์ตและมีแถบเรืองแสงในตัว ท่อไอเสียถูกซ่อนไว้ใต้กันชนเรียบร้อย ปิดท้ายความพรีเมียมด้วยแถบโครเมียมตกแต่งบริเวณประตูท้ายพร้อมตัวอักษร HAVAL เด่นชัดสวยงาม
สำหรับออปชันภายนอกของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ให้มาก็เทียบเท่ากับ HAVAL H6 Hybrid โดดเด่นด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ 360 องศาขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร ครอบคลุมเบาะนั่งตอนหน้าและตอนหลัง เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบกดครั้งเดียว ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสาร, ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ใช้การเตะเท้าไปใต้กันชนหลังเพื่อเปิดหรือปิดประตูท้ายโดยอัตโนมัติ นอกจากออปชั่นสองอย่างนี้แล้ว All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ก็ยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว ระบบไล่ฝ้ากระจกบานหน้าและหลัง ระบบล็อกรถอัตโนมัติ เป็นต้น
ข้อแตกต่างอีกจุดระหว่าง All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid กับ HAVAL H6 Hybrid คือช่องสำหรับชาร์จไฟบริเวณเหนือซุ้มล้อหลังด้านขวา ซึ่งเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริดมีมาให้ส่วนเวอร์ไฮบริดธรรมดาจะไม่มี โดยการชาร์จไฟของ HAVAL H6 Plug-in Hybrid จะรองรับทั้งการชาร์จปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ผ่านหัวชาร์จ Type 2 และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ผ่านหัวชาร์จ CCS Combo
ภายในห้องโดยสาร
ห้องโดยสารของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ในแง่รูปแบบดีไซน์นั้นไม่แตกต่างจาก HAVAL H6 Hybrid แต่จุดที่แตกต่างคือสีห้องโดยสารที่มาในโทนดำ-เทา ภายใต้แนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome ให้ความโมเดิร์นในสไตล์ Futuristic ประกอบกับการใช้วัสดุและงานผลิตคุณภาพสูง พร้อมกับความกว้างขวางให้ห้องโดยสารและความประณีตในทุกๆ รายละเอียด แดชบอร์ด แผงประตู คอนโซลกลาง หุ้มด้วยหนังบุนุ่มคุณภาพดีทั้งหมด พร้อมกันนี้ยังมีการตกแต่งด้วยไฟเรืองแสง Ambient Light สำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
เบาะนั่งทุกตัวของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์คุณภาพดีพร้อมการตัดเย็บที่ประณีตสวยงาม เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ นอกจากนี้เบาะนั่งคู่หน้าทั้งสองตัวยังมีระบบระบายอากาศให้มาด้วย
พวงมาลัยของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ดีไซน์ไม่แตกต่างจาก HAVAL H6 Hybrid หุ้มด้วยหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง-เข้า-ออก มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มควบคุมจอมาตรวัดดิจิตอลครบครัน ในส่วนของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะมีเป็นก้านปรับที่บริเวณคอพวงมาลัย
ด้านมาตรวัดเป็นจอดิจิตอลความละเอียดสูง HD Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ครบครัน มาพร้อมกราฟิกที่สวยงาม สีสันต่างๆ คมชัด อ่านค่าง่าย มีจอแสดงข้อมูลขับขี่บนกระจกบังลมหน้าหรือ Head-up Display ให้ผู้ขับได้รู้ข้อมูลการขับขี่สำคัญได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ ใน All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid คือแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High gloss การเปลี่ยนเกียร์ใช้วิธีการหมุน โดยหมุนซ้ายสุดเป็นเกียร์ R หมุนมาตรงกลางเป็นเกียร์ N หมุนมาขวาสุดเป็นเกียร์ D กดปุ่มตรงกลางเป็นเกียร์ P สำหรับจอด ซึ่งโดยรวมแล้วใช้งานง่ายมาก และใกล้ๆ กันยังมีปุ่มกดเบรกมือไฟฟ้าและปุ่มฟังก์ชัน Auto Brake Hold มาให้ใช้งานอย่างครบครัน
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันไม่ต่างจาก HAVAL H6 Hybrid เบาะนั่งตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวาง เบาะใหญ่ นุ่ม นั่งสบาย การขึ้น-ลงรถง่าย พนักพิงหลังมีองศาความเอนกำลังดี มีที่วางแขนกลางเบาะนั่งด้านหลัง สามารถพับพนักพิงแยกอิสระได้ในอัตราส่วน 60/40 สำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บของ ในส่วนของห้องเก็บสัมภาระมีความจุที่ใหญ่พอสมควรพร้อมด้วยแผงกั้นสัมภาระด้านท้ายที่สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิ 2 โซนซ้าย-ขวา พร้อมระบบไส้กรองอากาศ CN95 สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ได้ละเอียดหมดจด และมาพร้อมกับช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังครบครัน ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสารอื่นๆ ก็มีครบ ได้แก่ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start, ช่องชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย Wireless Charger, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นพร้อมที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, กระจกหน้าต่างปรับไฟฟ้า, กุญแจ Smart Key และอื่นๆ อีกหลายรายการ
ระบบความบันเทิงสุดไฮเทค
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid มาพร้อมกับระบบความบันเทิงที่ทันสมัยที่สุด แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสแบบลอยตัว HD Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว บริเวณกึ่งกลางแดชบอร์ดที่มาพร้อมกับความบันเทิงเต็มรูปแบบและฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์และการสตรีมเพลงผ่านแอปพลิเคชันฟังเพลงชั้นนำอย่าง Joox รวมถึงรับข้อมูลข่าวสาร พยากรณ์อากาศ รายงานสภาพการจราจร เป็นต้น นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สายด้วยสัญญาณ Bluetooth มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ที่ละเอียดและแม่นยำ ตลอดจนรองรับการสั่งงานด้วยเสียง Voice Command สำหรับตั้งค่าต่างๆ ภายในรถเช่น สั่งปรับอุณหภูมิแอร์ สั่งเปิดหน้าต่าง สั่งเปิดวิทยุ ค้นหาเพลง ค้นหาสถานที่ ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ หน้าจอ 12.3 นิ้วยังรวมการตั้งค่าสำคัญของรถเอาไว้ทั้งหมด ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ การตั้งค่าตัวรถ ระบบแสงสว่าง ระบบความปลอดภัย สถานะการใช้พลังงาน ตลอดจนโหมดการขับขี่
นอกจากจะมาพร้อมกับฟีเจอร์สุดล้ำมากมายแล้ว All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ยังรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน GWM Application บนมือถือ ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android เมื่อมีแอปฯ นี้ คุณจะสามารถตรวจสอบและสั่งการรถยนต์ได้จากสมาร์ทโฟน ได้แก่ ตรวจสอบสถานะประตูห้องโดยสารและประตูท้าย, ตรวจสอบสถานะหน้าต่างห้องโดยสาร, ตรวจสอบสถานะระบบไฟนำทางและไฟสัญญาณ, ตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, ตรวจสอบแรงดันและอุณหภูมิลมยาง, ตรวจสอบสถานะเบาะระบายความร้อน, รวมถึงการค้นหาตำแหน่งรถยนต์, สร้างขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์, ตรวจสอบสถานะระบบปรับอากาศและฟอกอากาศ, สั่งล็อกและปลดล็อกประตู, สั่งเปิดกระจก, สั่งเปิดประตูท้าย, สั่งเปิดเครื่องปรับอากาศและฟอกอากาศ, สั่งเปิดระบบระบายความร้อนเบาะนั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย และผู้ขับยังสามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ของระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ FOTA ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเขาไปรับบริการที่ศูนย์ เรียกว่าครบถ้วนและอัจฉริยะมากๆ
สำหรับระบบเสียงภายในรถ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid จะเป็นชุดลำโพง 8 ตัวรอบห้องโดยสารพร้อม Treble Woofer และระบบ DTS ให้มิติเสียงรอบทิศทางที่มีความสมจริง คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม และมีระบบปรับระดับเสียงดัง-เบาอัตโนมัติตามความเร็วที่รถวิ่ง
ขุมพลังเครื่องยนต์
ไฮไลท์สำคัญของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid คือระบบขับเคลื่อนไฮบริดประสิทธิภาพสูง โดยในระบบจะประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC จ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ขนาดความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้าพร้อมเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid สามารถทำได้สูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC ถือว่ามากที่สุดของรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีจำหน่ายในเมืองไทย ณ เวลานี้ ไม่ปล่อยมลพิษ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ เดินทางได้ไกลโดยไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า แต่ละระบบมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด, และโหมดสภาพถนนลื่น นอกจากนี้รถยังมาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีเยี่ยมและปล่อยมลพิษต่ำมาก ทุกครั้งที่ยกคันเร่งหรือเบรก รถจะแปลงพลังงานที่เกิดขึ้นเป็นไฟฟ้าชาร์จกลับไปเก็บที่แบตเตอรี่ ซึ่งกระบวนการนี้ผู้ขับยังสามารถปรับระดับความหน่วงของระบบ Energy Recuperation ได้ 3 ระดับ
แบตเตอรี่ของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh รองรับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จทั้งแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จปกติด้วยไฟบ้าน (AC)
ระยะเวลาในการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) ประมาณ 35 นาที ส่วนการชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% – 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง
ระบบช่วงล่างของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นชุดเดียวกับ HAVAL H6 Hybrid มาตรฐาน โดยกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง มีจุดเด่นที่มีความนุ่มนวล ดูดซับแรงสะเทือนได้ดี พร้อมกับให้ความมั่นคง ยึดเกาะดี และมีเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีทั้งทางตรงและการเข้าโค้ง
ขณะที่ระบบบังคับเลี้ยวเป็นพวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า EPS มีจุดเด่นที่ความนุ่มนวลและเบาสบาย และยังให้การตอบสนองที่แม่นยำ เฉียบคม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถโดยรวมนั้นง่าย และยังสามารถปรับตั้งค่าน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 ระดับ
ในส่วนของระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ โดยเบรกหน้ามีครีบสำหรับช่วยระบายความร้อน ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเบรกให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรก BA และมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันมาให้ครบ
เทคโนโลยีช่วยขับขี่และระบบความปลอดภัย
เทคโนโลยีช่วยขับขี่ของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ให้มาไม่แตกต่างจาก HAVAL H6 Hybrid โดยฟีเจอร์ที่เป็นดั่งจุดขายของรถรุ่นนี้ก็คือระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ IIP ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกได้ทั้งการจอดแบบเข้าซอง จอดแบบขนานฟุตบาธ และจอดตามแนวเฉียง ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการจอดในสถานที่ต่างๆ ได้ดี
ระบบต่อมาคือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้ ช่วยล็อกความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่กำหนดไว้ สามารถเร่งและชะลอความเร็วตามรถคันหน้าได้อย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ ซึ่งช่วยแบ่งเบาความเมื่อยล้าในการขับขี่แบบไหลตามรถคันข้างเป็นเวลานานๆ ได้เป็นอย่างดี
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ยังระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กม./ชม. ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้ เมื่อกดใช้งานฟีเจอร์นี้รถจะทำการถอยหลังย้อนกลับตามเส้นที่เดิมที่ขับผ่านมาให้เองโดยอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกในพื้นที่แคบๆ ได้เป็นอย่างดี
นอกจากระช่วยสุดล้ำข้างต้นแล้ว All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ยังใส่ฟีเจอร์ดีๆ มาอีกมากมาย ได้แก่ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง และระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 ซึ่งระบบทั้งหมดคิดค้นและออกแบบมาให้ทำงานสอดประสานกันเพิ่มมอบความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐาน All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ก็ใส่มาให้อย่างครบครัน ไฮไลท์เด่นคือ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศาที่สามารถแสดงภาพได้อย่างคมชัด สมจริง และดูง่าย มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์แจ้งเตือนระยะด้านหน้าและด้านหลัง และก็ยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล, ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู, ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด ในส่วนของถุงลมนิรภัยมีทั้งหมด 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX มาให้ที่บริเวณเบาะหลัง ทั้งนี้ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ไม่มีล้ออะไหล่แต่ให้เป็นชุดปะยางฉุกเฉินมาแทน
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid ที่สุดของยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริด
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ยุคใหม่ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย อัดแน่นด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม และสำคัญที่สุดคือระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนที่ยาวไกลสูงสุดกว่า 201 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในกลุ่มรถปลั๊กอินไฮบริดที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ณ เวลาปัจจุบัน ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาความสุดยอดไม่ว่าจะเป็นด้านการขับเคลื่อน การใช้พลังงาน ความอเนกประสงค์ สะดวกสบาย และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมในชีวิต All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid เป็นคำตอบที่พร้อมจะสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับคุณ ให้ความสนุกและปลอดภัยได้ทุกการเดินทาง