haval h6
Haval H6 รีวิว รถ C-SUV พร้อมราคาและแคมเปญครบ ปัจจุบันรถเอสยูวีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในเมืองไทยและทั่วโลก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะความอเนกประสงค์ในการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทั้งในแง่การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันไปและการขับขี่ท่องเที่ยวทางไกลในวันหยุด รถเอสยูวีรุ่นใหม่ในปัจจุบันมาพร้อมกับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัยและความสะดวกสบายที่ไม่ต่างจากรถยนต์นั่ง และมีข้อได้เปรียบตรงที่ตำแหน่งนั่งขับและความสูงของตัวรถที่มากกว่าส่งผลถึงทัศนวิสัยการขับขี่ดีกว่าและมีความสมบุกสมบันลุยได้มากกว่ารถเก๋งและรถแฮทช์แบ็กทั่วไป นอกจากนี้ รถเอสยูวียุคใหม่ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ทรงพลังทำให้มีสมรรถนะการขับขี่ดี รวมทั้งมีเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยสุดล้ำซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่จับพวงมาลัย ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่หลายคนให้ความสนใจรถเอสยูวีมากกว่ารถเก๋งและรถแฮทช์แบ็ก และอยากจะได้เอสยูวีดีๆ สักคันมาเป็นรถประจำตัว
ราคารถ
หลายคนอาจคิดว่ารถเอสยูวีที่ดีพร้อมรอบด้านต้องมีราคาค่าตัวที่สูง แต่ไม่ใช่กับ ฮาวาล เอช 6 นี่คือรถเอสยูวีน้องใหม่ของตลาดรถยนต์เมืองไทยที่กำลังสร้างปรากฏการณ์สุดร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์หรูหราพรีเมียมสไตล์รถยุโรป ทำให้เอสยูวีรุ่นนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้าชาวไทยจำนวนมากตั้งแต่วันเปิดตัว พร้อมด้วยคุณสมบัติของการเป็นรถเอสยูวีที่ดีตามที่กล่าวไว้ข้างต้น การออกแบบภายนอกและภายในสวยงามแตกต่างจากเอสยูวีแบรนด์อื่น ห้องโดยสารล้ำสมัย ตกแต่งสวยงาม กว้างขวาง สะดวกสบาย และมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีช่วยขับขี่รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดคือราคาค่าตัวสุดเซอร์ไพรส์ เริ่มต้นเพียง 1.149 ล้านบาทเท่านั้น
ฮาวาล เอช 6 มีวางจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย มี ราคา ดังนี้
- Pro ราคา 1,149,000 บาท
- Ultra ราคา 1,249,000 บาท
เชื่อว่าลูกค้าหลายท่านเมื่อเห็นราคาก็น่าจะอยากรู้จัก ฮาวาล เอช 6 กันมากขึ้นแล้วแน่ๆ วันนี้ทาง GWM จรัญสนิทวงศ์ จะมารีวิวรถให้ทุกท่านได้ทราบว่า ฮาวาล เอช 6 ของเรามีความน่าสนใจอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง น่าขับขี่แค่ไหน ถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว ไปกันเลย
มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
รีวิวรถภายนอก haval h6 ที่หรูหราทันสมัยสไตล์ยุโรป
อย่างที่ทุกท่านเห็นเลยครับว่าดีไซน์นั้นโดดเด่นและน่าสนใจตั้งแต่แรกเห็น เอสยูวีรุ่นนี้มีการออกแบบที่มีกลิ่นอายรถยุโรปผสมผสานอยู่อย่างชัดเจนพร้อมกับขนาดตัวถังที่ใหญ่โตแต่ดูหรูหราและไม่เทอะทะเกินไป รูปทรงตัวถังมีความสวยงามและมีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวทันสมัยสไตล์สปอร์ตผสมผสานความหรูหราพรีเมียมอย่างลงตัว
รีวิวรถจุดที่เด่นชัดเป็นเอกลักษณ์ก็คือกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่แบบ Classic Geometric Pattern รูปลักษณ์แบบ 3 มิติที่ให้ภาพลักษณ์ความพรีเมียมหรูหรากับตัวรถได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยไฟหน้า LED Projector ดีไซน์เฉียบคม จับคู่มากับไฟ Daytime Running Light ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามลงตัว ขยับลงมาเป็นกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวพร้อมด้วยแถบกันกระแทกพลาสติกสีดำที่ชายล่าง รวมทั้งมีไฟตัดหมอกคู่หน้า LED ติดตั้งมาด้วย
ดีไซน์ข้างรถโดดเด่นด้วยเส้นแนวบ่าที่ลากจากไฟหน้าผ่านประตูไปจรดไฟท้าย สร้างมิติให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยวน่ามอง มาพร้อมกับมือจับประตูและกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งเพิ่มความหรูด้วยแถบโครเมียมที่ชายล่างของประตูและกรอบกระจกหน้าต่าง พร้อมกับเพิ่มภาพลักษณ์สมบุกสมบันด้วยคิ้วล้อพลาสติกสีดำเชื่อมต่อกับแถบกันกระแทกพลาสติกสีดำที่ชายล่างของประตู และติดตั้งราวหลังคามาเป็นมาตรฐานพร้อมสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดกับครอบครัว
ดีไซน์ท้ายรถมีความโดดเด่นกว่าใครด้วยไฟท้าย LED Light Strip คาดยาวระหว่างสองฝั่ง ให้ความสวยงามและทันสมัยในแบบฉบับรถหรูจากยุโรป มาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังคาดีไซน์สปอร์ตและเสาอากาศครีบฉลาม มีแถบโครเมียมพร้อมตัวอักษรHAVAL โดดเด่นสวยงาม นอกจากนี้ยังมีชนหลังสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมแทบกันกระแทกสีดำที่ชายล่างเพิ่มภาพลักษณ์สมบุกสมบันตามแบบฉบับรถเอสยูวีสายลุย รวมถึงมีแทบเรืองแสงและไฟตัดหมอกท้าย LED เพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ตอนกลางคืนเมื่อทัศนวิสัยไม่ดี ในส่วนของท่อไอเสียถูกซ่อนอยู่ใต้กันชนเพิ่มความเรียบร้อยสวยงาม
สำหรับลูกค้าที่สงสัยว่า haval h6 นั้นจัดอยู่ในเซกเมนต์ใด เรามีคำตอบในรีวิวรถนี้ครับ ฮาวาล เอช 6 เป็นรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์เอสยูวีหรือเรียกสั้นๆ ว่า C-SUV ก็ได้ จัดอยู่ในเซกเมนต์เดียวกับ Honda CR-V, Mazda CX-5, MG HS, Nissan X-Trail, Subaru Forester และ Mitsubishi Outlander PHEV จะเห็นว่าคู่แข่งแต่ละรุ่นโหดหินกันทั้งนั้น แต่ ฮาวาล เอช 6 ก็มีความโดดเด่นในหลายๆ ด้านไม่แพ้คู่แข่งคันอื่นๆ เช่นกัน
มิติตัวถังของ ฮาวาล เอช 6 ยาว 4,653 มม. กว้าง 1,886 มม. สูง 1,724 มม. มีความยาวฐานล้อ 2,738 มม. น้ำหนักตัวรถ 1,690 – 1,720 กก. ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดทำให้รถมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและโปร่งสบาย รวมถึงมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ 2-3 ใบเลยทีเดียว เหมาะกับการไปเที่ยววันหยุดกับครอบครัวเป็นอย่างมาก
ฮาวาล เอช 6 มีความสูงใต้ท้องรถที่ 175 มม. ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการบุกตะลุยเส้นทางยากลำบากได้ในระดับหนึ่ง ลุยน้ำตื้นๆ ได้ ลุยทางขรุขระและทางลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อได้ ทำให้สามารถเดินทางไปในพื้นที่เข้าถึงยากได้มากขึ้น นอกจากนี้ ฮาวาล เอช 6 ยังมีความจุถังเชื้อเพลิงถึง 61 ลิตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะดังนั้นจึงเดินทางไกลได้สบายไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อยๆ
ในส่วนของล้อและยาง ฮาวาล เอช 6 รุ่น Pro จะได้ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/60 R18 ส่วนรุ่น Ultra จะได้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมกับยางขนาด 225/55 R19 ถือว่าเป็นขนาดล้อมาตรฐานจากโรงงานใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ C-SUV ในปัจจุบัน รับรองว่าสวยโดดเด่นกว่าใครแน่นอน
อีกหนึ่งจุดที่ทำให้เหนือว่าคู่แข่งร่วมเซกเมนต์รุ่นอื่นๆ คืออุปกรณ์มาตรฐานภายนอกที่ใส่มาให้แบบจัดเต็ม เริ่มที่ระบบไฟหน้า LED ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันเสริมมากมาย ได้แก่ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
อุปกรณ์ที่หลายท่านชื่นชอบอย่างหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟและประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าทาง ฮาวาล เอช 6 ก็ใส่มาให้ครบครัน แถมหลังคากระจกยังมีขนาดใหญ่มากอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว กระจกมองข้างจะพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ และยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ โดยรวมถือว่าให้มาเต็มและครบสุดๆ สำหรับรถในระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ
ภายใน ฮาวาล เอช 6 ตกแต่งเรียบหรูมีสไตล์
ภายนอกของ haval ว่าโดดเด่นแล้ว เราอยากบอกว่าภายในของเอสยูวีรุ่นนี้ก็สร้างความตะลึงได้ไม่แพ้กันด้วยการออกแบบที่ล้ำยุคตามแนวคิด Future Intelligent Cockpit หรือห้องโดยสารแบบอนาคตพร้อมนวัตกรรมใหม่ที่คอยอำนวยความง่ายในการใช้งาน แดชบอร์ดหน้า แผงประตูด้านข้าง และคอนโซลกลางถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังบุนุ่มและมีการตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม โดยรุ่น Pro จะมีห้องโดยสารสี All Black ส่วนรุ่น Ultra เป็นสี Black-Grey ที่โดดเด่นด้วยชิ้นส่วนตกแต่งสี Rose Gold ซึ่งไม่มีเอสยูวีรุ่นไหนในไทยเคยทำมาก่อน นอกจากนี้ยังมีไฟ Ambient Light ตกแต่งรอบห้องโดยสารเพื่อเพิ่มบรรยากาศในขณะขับขี่
เบาะนั่งของ ฮาวาล เอช 6 เป็นวัสดุหนังสังเคราะห์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมตัวดันหลังไฟฟ้า เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีระบบระบายความร้อนในเบาะนั่งคู่หน้ามาให้ด้วย
พวงมาลัยของ ฮาวาล เอช 6 มีดีไซน์ล้ำยุคกว่ารถรุ่นอื่นๆ หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง-เข้า-ออก มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มควบคุมจอมาตรวัดดิจิตอล
มาตรวัดของ ฮาวาล เอช 6 เป็นหน้าจอดิจิตอลความละเอียดสูงขนาด 10 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ครบครันพร้อมกราฟิกที่สวยงามทันสมัยและอ่านค่าง่าย นอกจากนี้ยังมีจอ Head-up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้าผู้ขับ ช่วยให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
คอนโซลกลางของ ฮาวาล เอช 6 ออกแบบให้มีลักษณะสองชั้น คันเกียร์แบบดั้งเดิมที่ทุกท่านเคยเห็นในรถรุ่นอื่นๆ ถูกแทนที่ด้วยเกียร์ไฟฟ้าที่มีลักษณะเป็นแป้นหมุนพร้อมการใช้งานที่เรียบง่าย กดปุ่มตรงกลางจะเป็นเกียร์ P บิดซ้ายเป็นเกียร์ R บิดมาตรงกลางเป็นเกียร์ N บิดขวาสุดเป็นเกียร์ D ถัดมาจะมีปุ่มเบรกมือไฟฟ้าและปุ่มเปิด-ปิดฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง และยังมีพักแขนกลาง ช่องเก็บของ และช่องใส่แก่วน้ำ 2 ช่อง
haval h6 เป็นเอสยูวีที่มอบความสะดวกสบายได้อย่างสูงสุด มาพร้อมกับขนาดพื้นที่ภายในที่กว้างขวางทั้งตอนหน้าและตอนหลัง การเข้า-ออกรถทำได้อย่างสะดวกจากประตูขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้าง เบาะคู่หน้านั่งสบาย ใหญ่ นุ่ม โอบกระชับลำตัว เบาะด้านหลังก็นั่งสบายเช่นกันด้วยพนักพิงที่มีความเอนกำลังดี มีพนักพิงศีรษะตอนกลาง มีที่พักแขนแขนกลางพร้อมช่องวางแก้วน้ำในตัว นอกจากนี้ พนักพิงเบาะหลังก็สามารถพับแยกได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระและมีแผงบังสัมภาระท้ายรถมาให้ด้วย
ระบบปรับอากาศของ ฮาวาล เอช 6 เป็นระบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิอิสระ 2 โซนซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ CN95 Filter และระบบ Ionizer มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังมาให้เพื่อความเย็นสบายอย่างทั่วถึง
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบครันทั้งช่องชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ รีโมทควบคุมการปิดกระจก กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า-หลัง รวมถึงช่องเก็บของอีกมากมาย และช่องใส่ขวดน้ำที่แผงประตูทุกบาน
ระบบความบันเทิงมาพร้อมความก้าวล้ำทั้งในแง่ดีไซน์ การใช้งาน และเทคโนโลยี และการเชื่อมต่อ แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว (ในรุ่น Pro เป็นจอ 10 นิ้ว) ติดตั้งในตำแหน่งด้านบนของแดชบอร์ดที่ผู้ขับขี่มองง่าย จอนี้มีดีไซน์สวยหรูพร้อมการแสดงผลความละเอียดสูง คมชัด สีสันสดใส หน้าตาเมนูต่างๆ สวยงามทันสมัย การควบคุมและการตอบสนองต่างๆ ลื่นไหลดีมาก ด้านฟังก์ชันใช้งานมีก็ครบครันตามมาตรฐานรถยนต์ยุคใหม่ หลักๆ ก็จะมีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ระบบ Wi-Fi การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth มี SIM Card ฝังมาในรถเพื่อรองรับการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ต
อีกหนึ่งความยอดเยี่ยมของระบบความบันเทิงใน haval h6 คือรองรับการสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) คุณสามารถสั่งการรถยนต์เป็นภาษาไทยได้ง่ายๆ เพียงพูดว่า “สวัสดี Haval” แล้วตามด้วยคำสั่งเช่น เปิดซันรูฟ เปิดหน้าต่าง ลด-เพิ่มเสียง ควบคุมอุณหภูมิแอร์ และอีกมากมาย ซึ่งถือว่าสะดวกและใช้งานง่ายมากๆ
นอกจากนี้รถยนต์ ฮาวาล เอช 6 ยังรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน GWM ที่มาพร้อมฟีเจอร์ดีๆ มากมาย เช่น ตรวจสอบสถานะของรถยนต์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟสัญญาณต่างๆ แรงดันลมยาง สามารถสั่งเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศผ่านแอปพลิเคชันได้ รวมถึงสามารถค้นหาตำแหน่งของรถและสร้างขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ที่เมื่อรถวิ่งเข้าหรือออกจากบริเวณที่คุณกำหนดจะมีการเตือนมายังแอปพลิเคชัน
และเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นไปอีก ซอฟต์แวร์ระบบความบันเทิงของ ฮาวาล เอช 6 นั้นสามารถการอัพเกรดตัวเองได้แบบออนไลน์ (FOTA) เพื่อความสะดวกและเข้าถึงฟังก์ชันอัพเดตใหม่ๆ ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์
ในส่วนของระบบเครื่องเสียงก็ไม่ธรรมดาเพราะให้ชุดลำโพงมา 8 ตัวรอบห้องโดยสารพร้อม Treble Woofer และระบบเสียงรอบทิศทาง DTS และยังมีระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถมาให้ด้วย คุณภาพเสียงที่ได้จึงอยู่ในระดับยอดเยี่ยม สามารถสร้างความบันเทิงและความเพลินเพลินให้กับผู้โดยสารทุกคนได้เป็นอย่างดีในทุกๆ การเดินทาง
ระบบอัจฉริยะในฮาวาล เอช 6
เทคโนโลยีช่วยขับขี่ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ haval h6 เพราะว่าต้องการเป็นเอสยูวีที่โดดเด่นเรื่องความปลอดภัยและการขับขี่ที่ล้ำสมัยที่สุด ฮาวาล เอช 6 จึงใส่เทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่มีในปัจจุบันมาให้อย่างครบครันเพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุดของลูกค้า ช่วยแบ่งเบาภาระการขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยได้แบบรอบด้านอย่างแท้จริง ประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP)
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่ออมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
ระบบที่ให้มาทั้งหมดทำให้ ฮาวาล เอช 6 เป็นรถที่ล้ำสมัยและมีความปลอดภัยสูงมาก เทคโนโลยีที่ใส่มานั้นเรียกว่าเยอะแบบที่ไม่มีเอสยูวีรุ่นไหนให้มากได้เท่านี้ ถือเป็นจุดแข็งเหนือคู่แข่งค่ายอื่น ทั้งนี้ ระบบบางตัวสามารถปิดการใช้งานได้ที่เมนูในหน้าจอสัมผัสกลางแดชบอร์ดหากไม่ต้องการใช้
ใส่ระบบความปลอดภัยล้ำสมัยมามากมายเต็มคันเพื่อมอบความปลอดภัยระดับสูงสุดให้กับทุกการขับขี่ทั้งในแง่การป้องกันและแง่การปกป้อง ประกอบด้วย
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB)
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSS)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ (ARS)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (BOS)
- ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
- เรดาร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร
โดยรวมแล้วระบบที่ให้มาถือว่าเยอะและครบครันมากๆ หาไม่ได้ง่ายๆ ที่รถเอสยูวี 1 คันจะมีระบบความปลอดภัยเยอะและครอบคลุมรอบด้านขนาดนี้ สำหรับลูกค้าที่มองหาเอสยูวีที่โดดเด่นเรื่องระบบความปลอดภัย haval h6 เป็นคำตอบที่ตรงกับความต้องการที่สุด ทุกการเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยความปลอดภัย ความสบายใจ และความสุขที่ได้จากการขับขี่อย่างแท้จริง
ฮาวาล เอช 6 ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับและเพลิดเพลินไปกับความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด
รถยนต์ haval ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮบริดประสิทธิภาพสูง เป็นการทำงานผสานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เอสยูวีรุ่นนี้จะผลิตพละกำลังสูงสุดมากถึง 243 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 530 นิวตันเมตร นอกจากจะให้กำลังมากมายแล้ว เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังรองรับน้ำมันเบนซิน E20 ด้วย
กำลังจากเครื่องยนต์ทั้งหมดถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ DHT ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าลงสู่ล้อคู่หน้า ทุกจังหวะในการส่งกำลังมีความนุ่มนวลมากจนแทบไม่รู้สึกว่ารถกำลังเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง ส่งผลถึงอัตราเร่งที่มีความต่อเนื่อง ลื่นไหล การตอบสนองที่ฉับไว ทำให้รถรถรุ่นนี้ขับสนุกทุกสถานการณ์ และมีพละกำลังเหลือๆ สำหรับการเร่งแซงและการขึ้นทางลาดชัน
เพื่อตอบสนองอารมณ์การขับขี่ได้อย่างครบถ้วนทุกความต้องการ ฮาวาล เอช 6 จึงมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย โหมดมาตรฐาน ให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวล ความประหยัด และพละกำลังที่เหมาะสม, โหมดสปอร์ต ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ รถจะตอบสนองไวขึ้น ขับสนุกมากขึ้น, โหมดประหยัด เน้นการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน ช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด และสุดท้าย โหมดพื้นหิมะ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่บนถนนเปียกลื่น นอกจากโหมดขับขี่ทั้ง 4 แบบแล้ว Haval H6 ยังสามารถปรับระดับการคืนพลังงานได้ 3 ระดับคือ ต่ำ, กลาง, สูง ซึ่งจะส่งผลถึงอัตราการชาร์จไฟในขณะผ่อนคันเร่งและทุกๆ การเบรกนั่นเอง
haval h6 ติดตั้งช่วงล่างประสิทธิภาพสูงเพื่อมอบคุณภาพการขับขี่ที่ดีที่สุด ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อให้รถมีความนุ่มนวลสูงสุดไม่ว่าจะเจอทางขรุขระ หลุมบ่อ เนินกระโดด ก็ยังรับรู้ได้ถึงความนุ่มสบาย และมีการดูดซับแรงสะเทือนที่ดีในทุกสภาพถนน นอกจากนี้ยังมอบความรู้สึกแน่นหนึบเกาะถนนทั้งทางตรงและทางโค้ง ทำให้รถมีความนิ่งและมีการทรงตัวที่ดีในขณะขับขี่ ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสามารถขับขี่ ฮาวาล เอช 6 ได้อย่างมั่นใจ
พวงมาลัยของ ฮาวาล เอช 6 เป็นระบบพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS มีจุดเด่นที่ความนุ่มนวลและเบาสบาย ควบคุมง่าย แม่นยำ ตอบสนองไว นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความหนืดพวงมาลัยได้ ตอบโจทย์คนที่ต้องการการตอบสนองของพวงมาลัยที่ต่างกันเพราะบางคนอาจชอบพวงมาลัยที่เบาและนุ่มนวล แต่บางคนอาจชอบพวงมาลัยที่มีความหนืดมากหน่อยและตอบสนองไว
ระบบเบรกของ ฮาวาล เอช 6 เป็นดิสก์เบรกคุณภาพสูงทั้ง 4 ล้อ ให้ความมั่นใจในการเบรกได้เป็นอย่างดีในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเสริมแรงเบรก EBA ตามมาตรฐานรถยนต์ยุคใหม่
โฆษณาเปิดตัวฮาวาล เอช 6
จากความยอดเยี่ยมที่กล่าวมาทั้งหมดแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า haval h6 นั้นเป็นเอสยูวีที่คุ้มค่าน่าใช้มากขนาดไหน เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่นมีความพรีเมียมหรูหราในสไตล์ยุโรป ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ตกแต่งสวย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ระบบความบันเทิงสุดล้ำรองรับสั่งการด้วยเสียงและการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดที่ทรงพลังและให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดี ตลอดจนเทคโนโลยีช่วยขับขี่และระบบความปลอดภัยที่ครบครันและครอบคลุมที่สุด ปกป้องอันตรายได้แบบรอบด้านรวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระการขับขี่ได้จริงๆ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในรถเอสยูวีเรือธงจาก GWM ที่กำลังเป็นปรากฏการณ์สุดร้อนแรงในขณะนี้ และที่สำคัญความยอดเยี่ยมทั้งหมดมาในราคาค่าตัวสุดคุ้มแบบที่คู่แข่งรุ่นอื่นให้ไม่ได้ เริ่มต้นที่ 1,149,000 บาท ใน haval h6 Pro และ 1,249,000 บาท ใน haval h6 Ultra
ถ้าคุณกำลังมองหารถเอสยูวีสำหรับครอบครัวที่เพียบพร้อมไปด้วยความสมบูรณ์แบบ มาลองสัมผัส ฮาวาล เอช 6 ได้ครับ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง สามารถสัมผัสของจริงได้ที่ GWM จรัญสนิทวงศ์
โบรว์ชัวรถ Haval H6
ส่องจุดเด่น Haval H6 รถเอสยูวีกระแสแรง แซงนำหน้าคู่แข่งด้วยเทคโนโลยีและความคุ้มค่า
อเนกประสงค์สไตล์เอสยูวีอย่างแท้จริง
รถยนต์ Haval H6 จัดอยู่ในคลาส Compact SUV ระดับเดียวกับคู่แข่งอย่าง Honda CR-V, MG HS, Mazda CX-5, Nissan X-Trail, Subaru Forester, Mitsubishi Outlander PHEV ในเรื่องของขนาดและมิติตัวถังนั้น Haval H6 ไม่เป็นรองใครเพราะว่ารถมีความใหญ่โตแต่ยังดูสมส่วนและปราดเปรียว ตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 4,653 มม. กว้าง 1,886 มม. สูง 1,724 มม. มีระยะฐานล้อ 2,738 มม. สิ่งที่มาพร้อมกันคือขนาดพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ทั้งกว้างและสะดวกสบายไม่เป็นรองคู่แข่ง
เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นรถเอสยูวีหลายท่านน่าจะรู้จักจุดเด่นและข้อดีของรถประเภทนี้กันอยู่แล้ว จุดเด่นแรกคือความอเนกประสงค์ในการใช้งาน รถเอสยูวีจะมาพร้อมกับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่จากห้องโดยสารด้านท้ายมีลักษณะตัดตรง ท้ายไม่ลาดเหมือนอย่างรถเก๋งซีดาน ทำให้สามารถเก็บสัมภาระได้มาก ใส่ของที่มีขนาดใหญ่ได้ ซึ่ง Haval H6 นอกจากจะมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่แล้วก็ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างไม่แพ้ใคร สามารถพับเบาะหลังลงได้ในอัตราส่วน 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสิ่งของ ให้คุณใส่สัมภาระได้อย่างจุใจสำหรับการเดินทางไกลในวันหยุดสุดสัปดาห์กับครอบครัวและคนที่คุณรัก
รถเอสยูวี Haval H6 มาพร้อมกับระยะความสูงจากพื้นที่มากกว่ารถเก๋งซีดานและรถแฮทช์แบ็กทำให้สามารถขับขี่ตะลุยเส้นทางสมบุกสมบันได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นลุยทางลูกรัง ทางดิน ทางโคลน หลุมบ่อ พื้นผิวขรุขระ พื้นทราย ไปจนถึงลุยพื้นที่น้ำท่วม คุณจึงเดินทางได้หลากหลาย ขับขี่รถไปได้ทุกที่ท่ามกลางความสนุกเพลิดเพลินโดยไม่ต้องกลัวอุปสรรคใดๆ นอกจากนี้ความสูงของรถเอสยูวียังรวมถึงตำแหน่งเบาะนั่งคนขับที่สูงกว่ารถเก๋งและรถแฮทช์แบ็กทั่วไป ส่งผลถึงทัศนวิสัยและมุมมองรอบคันรถที่ดีกว่า มองเห็นได้กว้างไกลและชัดเจนตลอดรอบคัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ได้ดียิ่งกว่า
ขีดสุดแห่งวิศวกรรม
รถเอสยูวี Haval H6 ถูกออกแบบและพัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม GWM LEMON Platform (Lightweight, Electrification, Multi-Purpose and Omni-Protection Network) นี่คือแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์อัจฉริยะระดับโลกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการขับขี่แห่งอนาคต ออกแบบมาให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการขับขี่ ความปลอดภัย มีน้ำหนักที่เบา และผสานรวมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ แพล็ตฟอร์มนี้ยังรองรับการติดตั้งเครื่องยนต์ได้หลากหลายชนิดทั้งเครื่องยนต์แบบเชื้อเพลิงปกติ เครื่องยนต์ไฮบริด เครื่องยนต์ไฟฟา ไปจนถึงเครื่องยนต์พลังงานเซลล์ไฮโดรเจน
จุดเด่นของแพล็ตฟอร์ม GWM LEMON คือโครงสร้างตัวถัง High-Strength Steel 71.61% และ Hot Formed Steel Reaches 2,000 Mpa ที่สุดของความแข็งแกร่ง ผสานกับการออกแบบที่สามารถดูดซับแรงกระแทกแบบรอบทิศทางทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายของตัวรถ เพื่อป้องกันอันตรายแบบรอบด้าน ลดอาการบาดเจ็บและการสูญเสีย นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบถุงลมรอบทิศทาง 6 จุด ทำงานร่วมกับระบบรองรับแรงกระแทกรอบตัวรถเพื่อเพิ่มขีดความสามารถอย่างสูงสุดในการปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมการออกแบบระดับสูงที่คำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพการขับขี่เป็นสำคัญ นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจที่คุณจะได้รับเมื่อครอบครองรถยนต์ Haval H6
ดีไซน์ระดับพรีเมียม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งแรกที่ทำให้ลูกค้าชาวไทยหันมาสนใจ Haval H6 กันอย่างล้นหลามก็คือดีไซน์ภายนอกของตัวรถที่โดดเด่นสวยงาม มีเอกลักษณ์ สะท้อนภาพลักษณ์พรีเมียมสไตล์รถยุโรปด้วยเส้นสายที่มีความเฉียบคมและทันสมัยตามแบบฉบับเอสยูวียุคใหม่ ความยอดเยี่ยมด้านดีไซน์ที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมออกแบบของ Haval กับ Phil Simmons นักออกแบบรถยนต์ชื่อดังระดับโลกที่เข้ามาช่วยรังสรรค์ให้ Haval H6 กลายเป็นงานศิลป์ติดล้อที่สะกดทุกสายตาทันทีที่พบเห็น
ความโดดเด่นของ Haval H6 สะท้อนออกมาที่ดีไซน์ภายนอกรอบคันเริ่มตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่แบบ Classic Geometric Pattern รูปทรง 3 มิติดูสวยงามและหรูหรา ผสานกับไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์เฉียบคมทันสมัยพร้อมประสิทธิภาพการส่องสว่างที่ดีเยี่ยมทั้งตอนกลางวันและกลางคืน อีกจุดที่หลายคนเห็นแล้วชอบมากก็คือไฟท้าย LED Taillight Strip เส้นคาดยาวเต็มความกว้าง สร้างความโดดเด่นและแตกต่างไม่เหมือนใคร ทำให้รถดูโดดเด่นในเวลากลางคืน และดูหรูหรายิ่งขึ้นเมื่อมองจากด้านท้าย
อุปกรณ์อีกชิ้นที่ขาดไม่ได้สำหรับเอสยูวียุคใหม่ก็คือหลังคา Panoramic Sunroof ให้คุณได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ในขณะเดินทาง ซึ่งหลังคาซันรูฟของ Haval H6 มีขนาดใหญ่มากพร้อมการเปิด-ปิดที่ง่ายด้วยระบบไฟฟ้า จึงช่วยเพิ่มความกว้างและบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่โปร่งสบายยิ่งกว่า ให้คุณได้สัมผัสความอิสระอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเมื่อขับรถไปยังเส้นทางสวยๆ แล้วเปิดหลังคาเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์
สิ่งสุดท้ายที่ Haval H6 เหนือกว่าคู่แข่งหลายรุ่นก็คือล้ออะลูมิเนียมอัลลอยขนาดใหญ่ 19 นิ้ว ให้ความสปอร์ตดุดันและสวยงามลงตัวกับดีไซน์ในภาพรวมของรถ มาพร้อมกับยางขนาด 225/55 R19 ทั้ง 4 ล้อ ซึ่งเป็นยางประสิทธิภาพสูงที่เหมาะสมกับสมรรถนะของรถ ให้ความนุ่ม เงียบ และช่วยเรื่องการควบคุมได้ดี
ห้องโดยสารคือปรากฏการณ์
ห้องโดยสารของรถยนต์ Haval H6 สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการรถยนต์เมืองไทยและถูกพูดถึงอย่างมากด้วยความพรีเมียมเหนือระดับและการออกแบบที่ยอดเยี่ยมตามแนวคิด Future Intelligent Cockpit หรือห้องโดยสารแบบอนาคตพร้อมนวัตกรรมใหม่ที่คอยอำนวยความง่ายในการใช้งาน การออกแบบเน้นความเรียบง่ายแต่หรูหราในสไตล์มินิมอลด้วยการใช้วัสดุและการประกอบคุณภาพสูง พร้อมกับเพิ่มความกว้างขวางให้ห้องโดยสารและความประณีตในทุกๆ รายละเอียด ให้คุณสัมผัสถึงความงดงามของนวัตกรรมเทคโนโลยีตั้งแต่แรกเห็น
Haval H6 รุ่น Ultra มาในห้องโดยสารโทนสีดำ-เทาตัดด้วยสี Rose Gold สุดพรีเมียมซึ่งพบเห็นได้ไม่บ่อยนักในรถยนต์เมืองไทย จุดเด่นอยู่ที่ความล้ำสมัยจากหน้าจอดิจิตอลความละเอียดสูง HD Multi Information Display ขนาด 10 นิ้วที่แสดงทุกข้อมูลการขับขี่หลังพวงมาลัย ให้คุณรับรู้ทุกข้อมูลได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน พร้อมด้วยความล้ำสมัยจากหน้าจอสัมผัสอัจฉริยะแบบลอยตัวขนาด 12 นิ้วบริเวณกึ่งกลางแดชบอร์ดที่มาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำมากมายและรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งกว่า เติมเต็มกับทุกความบันเทิงได้อย่างไร้ขีดจำกัด
จุดเด่นต่อมาคือความสะดวกสบายจากห้องโดยสารที่กว้างขวางพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความที่ครบครันไม่ต่างจากรถยนต์หรูระดับพรีเมียม เริ่มตั้งแต่สวิตช์เกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์ล้ำสมัยตกแต่งด้วยสีพิเศษแบบ High-gloss ให้การใช้งานที่ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส จุดต่อมาคือแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายติดตั้งมาในคอนโซลอย่างเหมาะสมสำหรับชาร์จอุปกรณ์โปรดของคุณได้ง่ายและรวดเร็วเพียงวางไว้นิ่งๆ
นอกจากนี้ Haval H6 ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ดีๆ เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้โดยสารทุนคนเริ่มจากระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาแบบ Dual zone พร้อมระบบกรองอากาศ CN95 และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสารด้วยไฟตกแต่ง Ambient Light พวงมาลัยดีไซน์ล้ำพร้อมปุ่มควบคุมระบบความบันเทิงและควบคุมหน้าจอมาตรวัดดิจิตอลที่มาคู่กับจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head Up Display ตลอดจนเบาะนั่งปรับไฟฟ้าเต็มรูปแบบพร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ เรียกว่าจัดเต็มความสะดวกครบครันยิ่งกว่าคู่แข่งหลายๆ รุ่น
เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด
รถยนต์ Haval H6 ถือเป็น Connected Car อัจฉริยะอย่างแท้จริงเพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อสุดล้ำที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตไปกับเอสยูวีคันนี้ได้อย่างสะดวกสบายและสนุกสนานยิ่งขึ้น ระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในรถรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ให้คุณและรถเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยระบบ Intelligent Connectivity ที่มีความชาญฉลาด รองรับการสั่งการด้วยเสียงพูดหรือ Voice Command คุณสามารถสั่งการฟีเจอร์ต่างๆ ของรถได้ง่ายๆ เช่น สั่งให้โทรศัพท์หาเพื่อน สั่งปรับอุณหภูมิแอร์ สั่งเปิดกระจก สั่งเปิดซันรูฟ สั่งให้ค้นหาสถานที่และเปิดระบบนำทาง สั่งควบคุมการเล่นเพลง เป็นต้น
Haval H6 ยังรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน คุณสามารถสั่งล็อก-ปลดล็อกรถยนต์ ดูสถานะของรถยนต์ ดูตำแหน่งของรถยนต์ ดูระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ดูสถานะแรงดันลมยาง สั่งเปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ รวมถึงกำหนดขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นอกจากความล้ำของระบบแล้ว Haval H6 ยังรองรับฟีเจอร์การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์แบบอัตโนมัติหรือ FOTA ทำให้คุณสามารถอัพเดตฟังก์ชั่นใหม่ๆ ให้กับระบบของรถได้ทันทีที่มีตัวอัพเดตใหม่ๆ ปล่อยออกมา ง่ายกว่า สะดวกกว่า และก็ประหยัดเวลากว่าเพราะไม่จำเป็นต้องไปเข้ารับบริการที่ศูนย์
สุดยอดขุมพลัง
รถยนต์ Haval H6 ชูจุดเด่นเหนือใครด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์ไฮบริดประสิทธิภาพสูง มอบพละกำลัง สมรรถนะ และอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศและการปล่อยมลพิษต่ำ เครื่องยนต์ของ Haval H6 เป็นการทำงานผสานกันระหว่างเครื่องเบนซิน 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ขนาดความจุ 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบแปรผัน VGT ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร รวมกำลังทั้งระบบจะได้พละกำลังสูงสุดมากถึง 243 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 530 นิวตันเมตร ถือเป็นเอสยูวีที่กำลังมากเป็นลำดับต้นๆ ของคลาส
ในส่วนของระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า DHT (Dedicated Hybrid Transmission) สร้างขึ้นพิเศษเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ชุดเกียร์มีการใช้เพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ 2 ชุดแยกกันระหว่างเกียร์ของเครื่องยนต์และเกียร์ของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถยนต์ไฮบริดที่มีชุดเกียร์ถึง 2 ระบบ ผลที่ได้คือตอบสนองต่อการขับได้ดีทั้งในเมืองและขับออกทางไกล การส่งกำลังมีความสมูธนุ่มนวลทุกจังหวะ รองรับการขับที่หลากหลายและให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมพร้อมกับการปล่อยมลพิษต่ำ
นอกจากความยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง Haval H6 ยังมีจุดเด่นที่การขับขี่และการตอบสนองที่ดีรวเร็วว่องไวบนพื้นฐานความนุ่มนวล พร้อมกันนี้ยังมีโหมดขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ มาตรฐาน / สปอร์ต / ประหยัด / สภาพถนนลื่น ออกแบบมาให้ผู้ขับได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกันและเหมาะสมสำหรับทุกสถานการณ์การขับขี่ตั้งแต่การเน้นความหยัดน้ำมัน เน้นความสนุกเร้าใจ ไปจนถึงเพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องขับขี่ท่ามกลางสายฝน
ระบบขับเคลื่อนไฮบริดของ Haval H6 ยังมีการทำงานที่ราบรื่น นุ่มนวล และแปรผันการทำงานได้ตามสถานการณ์ขับขี่ ถ้าขับปกติที่ความเร็วคงที่ มอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่สร้างกำลังขับเคลื่อนหลักเพื่อเน้นความประหยัดน้ำมันสูงสุด เครื่องยนต์จะทำงานก็ต่อเมื่อกดคันเร่งเพื่อทำการแซง พอขับความเร็วสูงรถจะปรับการทำงานของระบบไฮบริดให้เครื่องยนต์มีส่วนในการสร้างกำลังขับเคลื่อนมากขึ้น นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ยกคันเร่งหรือเหยียบเบรกรถจะแปลงพลังงานที่ได้เป็นกระแสไฟฟ้าชาร์จกลับเข้าไปเก็บที่แบตเตอรี่ ซึ่งผู้ขับสามารถปรับตั้งค่ากระบวนการ Energy Recuperation ของระบบไฮบริดได้ 3 ระดับตามต้องการ
สุดยอดเทคโนโลยีช่วยขับขี่
ไฮไลท์สำคัญของรถยนต์ Haval H6 ที่หลายท่านให้ความสนใจเป็นอย่างมากก็คือเทคโนโลยีช่วยขับขี่ LIFE+ ที่ติดตั้งมาในเอสยูวีรุ่นนี้ โดย Haval H6 ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่อยู่ในระดับขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 ซึ่งเป็นผลมาจากความยอดเยี่ยมของฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ 22 ฟังก์ชั่นที่จะคอยช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของผู้ขับขี่แบบได้แบบรอบด้าน ไม่ว่าคุณจะเคยเห็น รู้จัก หรือเคยใช้งานฟังก์ชั่นช่วยขับขี่มาจากรถยนต์รุ่นใด ใน Haval H6 มีมาให้ครบทั้งหมด
เริ่มต้นที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ที่จะระบุเส้นทางด้านหน้าของรถ ในขณะเดียวกันก็จะประสานการทำงานของระบบเบรกและระบบควบคุมเครื่องยนต์เพื่อรักษาห่างที่ ปลอดภัยจากรถคันหน้า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบช่วยหยุดรถและออกตัว Stop & Go เพิ่มความสะดวกขณะการขับขี่ในย่านที่มีการจราจรพลุกพล่าน
ระบบเลี่ยงการเข้าหารถใหญ่จากด้านข้าง Wisdom Dodge System (WDS) ช่วยตรวจจับรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อควบคุมให้รถยนต์รักษาระยะห่างจากรถบรรทุกในขณะเร่งแซง เมื่อแซงพ้นมาแล้วระบบจะปรับให้รถกลับมาวิ่งที่กึ่งกลางเลนตามปกติ
ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ Integration Auto Parking (IAP) ใช้ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา และเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกสำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวาง ค้นหาพื้นที่จอด และระบุเส้นทางการจอดได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สามารถช่วยจอดรถได้ทั้งในแนวตรง แนวทแยง และจอดเทียบด้านข้าง เมื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้ ทุกการจอดรถจะกลายเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นไปโดยอัตโนมัติ
ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ Auto Reversing Assistant (ARA) ระบบก็ล้ำไม่แพ้กันโดยจะจดจำเส้นทางเมื่อขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้สูงสุด 50 เมตร
ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา 360° Surrounding Camera ใช้กล้องรอบทิศทางความละเอียดสูง 4 ล้านพิกเซล ในการแสดงภาพรอบรถยนต์ สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน ช่วยอำนวยความสะดวกในการจอดรถหรือการขับขี่ผ่านพื้นที่แคบๆ ได้เป็นอย่างดี
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถยนต์อยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD) และระบบระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลนและมีรถยนต์ในเลนวิ่งมาจากด้านหลัง Lane Change Assistant (LCA) ทั้ง 2 ระบบนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะกำลังเปลี่ยนเลน ช่วยลดการเกิดการเชี่ยวชนเนื่องจากมองไม่เห็นในมุมอับ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA) และระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน Lane Center Keeping (LCK) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ และเมื่อทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันก็จะทำให้รถ Haval H6 ขับเคลื่อนได้แบบกึ่งอัตโนมัติ เลี้ยวตามโค้งได้เองอย่างแม่นยำโดยอาศัยการตรวจจับเส้นช่องจราจร พร้อมกับรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าตามที่กำหนด ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping (ELK) สองระบบนี้ช่วยป้องกันรถแล่นออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจไม่ว่าจะเป็นการเผลอ ประมาท หรือหลับใน รถจะส่งเสียงเตือนและช่วยหน่วงพวงมาลัยกลับไม่ให้เบี่ยงออกนอกเลน
ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) และ Rear Cross Traffic Braking (RCTB) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดการเชี่ยวชนที่อาจจะเกิดได้ตอนถอยหลังเนื่องจากมองไม่เห็นรถคันอื่นที่ขับมา
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก Auto Emergency Braking + Intersection (AEBI) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ Low Speed Emergency Braking (LSEB) ช่วยป้องกันการชนปะทะด้านหน้าทั้งทางตรงและสี่แยกด้วยการเบรกให้อัตโนมัติ รวมถึงป้องกันการชนขณะขับไหลตามรถคันหน้าในขณะขับขี่บนสภาพการจราจรที่หนาแน่น เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในเมืองเป็นประจำ
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้าและด้านหลัง Front Collision Warning (FCW) & Rear Collision Warning (RCW) รถจะส่งเสียงเตือนเมื่อตรวจพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการชนปะทะทั้งด้านหน้ารถและด้านท้ายรถเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ได้รับทราบ
เทคโนโลยีช่วยขับขี่ทั้งหมดใน Haval H6 มีความเหนือชั้นกว่าคู่แข่งทุกค่ายเพราะว่าใส่มาเยอะ มาเต็ม มาครบ ช่วยแบ่งเบาภาระการขับขี่ได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสะดวกสบาย เพิ่มความปลอดภัย และยังช่วยปกป้องการเกิดเหตุการณ์อันตรายได้จริง
สุดยอดระบบความปลอดภัย
นอกเหนือจากเทคโนโลยีช่วยขับขี่สุดล้ำแล้ว อุปกรณ์ความปลอดภัยในรถยนต์ Haval H6 ก็ใส่มาแบบจัดเต็มเริ่มจากอุปกรณ์เชิงป้องกันที่ประกอบด้วย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (VSS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ (ARS) ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (BOS) ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) และระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
ขณะที่อุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงปกป้องก็จะมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสารที่ประกอบด้วย ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลม รวมถึงโครงสร้างตัวถังนิรภัยที่ดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้รอบด้าน นอกจากนี้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นและถุงลมนิรภัยทำงาน สัญญาณเตือนอันตรายของรถจะทำงาน ประตูรถทุกบานจะถูกปลดล็อกเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าช่วยเหลือ และรถจะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินและส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้โดยอัตโนมัติ นับเป็นความก้าวล้ำที่ Haval H6 มีเหนือคู่แข่งเพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยสูงสุดแก่ทุกชีวิตภายในรถ
สุดยอดยนตรกรรมเอสยูวีที่นำหน้าคู่แข่งด้วยเทคโนโลยีและความคุ้มค่า
จากจุดเด่นที่กล่าวมาแสดงให้เห็นแล้วว่ารถยนต์ Haval H6 เป็นผู้นำในคลาส Compact SUV ตัวจริง นี่คือสุดยอดยนตรกรรมเอสยูวีที่นำเอาเอาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาผสานรวมเข้ากับความพรีเมียมได้อย่างสมบูรณ์แบบ เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่นสะท้อนความหรูในแบบรถยุโรป ภายในห้องโดยสารอันน่าทึ่งจากการออกแบบและการตกแต่งสุดล้ำสมัย กว้างขวาง เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การเชื่อมต่อที่ฉลาดล้ำ เครื่องยนต์ไฮบริด 243 แรงม้าที่มอบสมรรถนะเหนือกว่าใคร ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัว ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง และสุดท้ายคือเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ยกระดับให้เอสยูวีรุ่นนี้ให้กลายเป็นรถยนต์ขับขี่กึ่งอัตโนมัติพร้อมด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยระดับสูงที่ครบครันที่สุด
แม้ทุกอย่างที่มีใน Haval H6 จะก้าวล้ำกว่าคู่แข่งก็จริงแต่จุดที่โดดเด่นที่สุดและเป็นตัวสร้างความน่าสนใจให้กับเอสยูวีรุ่นนี้ก็คือราคาจำหน่ายสุดเย้ายวนใจแบบที่หาไม่ได้จากแบรนด์อื่น
Haval H6 Hybrid รุ่น PRO ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,149,000 บาท
Haval H6 Hybrid รุ่น Ultra ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,249,000 บาท
เมื่อเปรียบเทียบสเปกกับคู่แข่งและออปชั่นที่ได้รับคุณจะเห็นถึงความคุ้มค่าที่มากกว่าชัดเจน คุณจะได้สะดวกสบาย ได้ความล้ำสมัย คุณภาพการขับขี่ที่ดี ได้เทคโนโลยีต่างๆ ครบครันในงบประมาณไม่เกิน 1.25 ล้านบาท เรียกว่าครบ จบ ไม่ต้องไปเทียบกับรุ่นอื่นใดเพราะทุกอย่างมีใน Haval H6 หมดแล้ว